Monday

ร่างกับใจต้องไปพร้อมกัน Change takes time.

เฮ้ ! :)

เดือนที่ผ่านมาเป็นจุดพีคที่สุดที่น้ำผึ้งรู้สึกว่าร่างกายตัวเองแย่มากๆ แย่ในที่นี้คือ
1. รู้สึกไม่สดชื่นเวลาที่เราตื่นนอนตอนเช้า
2. ไม่มีพลัง คือเวลาทำงานที่ต้องใช้ความคิด หรือความอดทน จะทำไม่ได้นาน ไม่มีสมาธิ
3. หงุดหงิดง่าย งี่เง่าด้วย

มันมีสาเหตุมาจากการดูแลตัวเองแบบแย่ๆ ที่รู้แล้วก็ยังทำ คือ
- นอนดึก (หลัง 5 ทุ่ม)
- ไม่กินข้าวเช้า / กินข้าวไม่ตรงเวลา
- ไม่อึ๊ในตอนเช้า (ก่อน 7 โมง)
- ไม่ออกกำลังกาย
- กินน้ำน้อย
- กินแต่กาแฟ กาแฟดำหวานน้อย หรือบางทีก็ไม่หวานเลย
- กินขนมเยอะ พวกของไม่มีประโยชน์

มันมีเยอะมากอ่ะ ซึ่งถ้าย้อนเวลากลับไปช่วงประมาณ ต้นปีที่แล้ว (2013) น้ำผึ้งดูแลตัวเองดีมาก
ตื่นมาวิ่งตอนเช้า วิ่งเสร็จก็ต้องทำน้ำผัก/ผลไม้คั้นสดกิน กินข้าวเช้าทุกวันก่อน 9 โมงเช้า



ระหว่างวันก็กินน้ำเยอะมาก กินแต่ของมีประโยชน์ สี่ทุ่มก็นอนละ บางทีสามทุ่มก็ง่วงก็รีบเข้านอน
ตื่นเช้ามาเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัว ตอนนั้นเป็นช่วงชีวิตที่เรารู้สึกได้ถึงพลังของร่างกายที่ทำให้เรามีแรงทำอะไรหลายๆอย่างได้ในหนึ่งวันแบบมีพลังเหลือเฟือ สดชื่น สดใส อารณ์ดี คือเรียกได้ว่าเป็นช่วงชีวิตที่ดีมากจริงๆ

ซึ่งชีวิตในแต่ละวันของน้ำผึ้ง น้ำผึ้งค่อนข้างจะจัดเวลาในการกิน การนอน การทำงาน เวลาว่างให้ตัวเองไวอ่านหนังสือ ดูซีรีย์หรือฟังเพลงที่ตัวเองชอบ อย่างเป็นระบบ

แต่พอช่วงปลายปีเดือนสิงหาคม เริ่มทำธุรกิจเป็นธุรกิจใหม่ของครอบครัวเลย และเราก็เป็นคนรับผิดชอบเองทั้งหมด มันหนักนะ จากที่เคยนอนไวก็กลายเป็นนอนดึก พอนอนดึกร่างกายมันก็ตื่นสาย ตื่นสายก็ไม่มีเวลาออกกำลังกาย ข้าวเช้าก็ได้กินบ้างไม่ได้กินบ้าง นอนดึกมันง่วงก็ต้องกินกาแฟ แต่ปกติน้ำผึ้งก็กินกาแฟดำอยู่แล้ว แต่ไม่เยอะเท่าช่วงที่เริ่มงานทำงานหนักๆ

10 เดือนผ่านไป ....

สิวเห่อ
ขอบตาดำ
ตีนกาขึ้น
ย้วย
ยาน
แย่ !!!!


แต่ระหว่างนี้ก็ได้ไปล้างพิษตับอยู่เรื่อยๆ ล้างมาทั้งหมด 3  ครั้งแล้ว แต่!!! เหมือนเราล้างรถให้มันใหม่แต่เราก็ไม่ได้ดูแลส่วนอื่นๆ อย่างเครื่องยนต์ ยาง น้ำยาแอร์ นั่นละร่างกายน้ำผึ้งตอนนี้

รู้ตัวว่า "เฮ้ย! ร่างแม่งไม่ไหวแล้วหว่ะ" มันมีอยู่วันนึง นอนเกือบๆ ตี1 แต่ตื่นอีกทีตอนเที่ยง ลืมตามานอน งงๆ อยู่บนเตียง  "แม่งโคดร่องลอย" ไม่มีแรงเลย พอหันไปทางหัวเตียงมีหนังสือที่อ่านค้างไว้หรือบางเล่มซื้อมายังไม่เคยเปิดอ่านอีกเลยตั้งแต่เลือกซื้อที่ร้าน มันมีเยอะมาก !

เลยเริ่มรู้ตัวว่า "เฮ้ย ! เราละเลยอะไรที่สำคัญของชีวิตไปวะ จะอยู่กับร่างแบบนี้? จะทำงานเยอะๆ แต่ไม่มีคุณภาพหรอวะ"

เปลี่ยน ตัวเองใหม่ทันที !!

ความคิดเปลี่ยนเลยบ่ายวันนั้น เริ่มกลับมาดูตัวเองว่าทำอะไรแย่ๆกับร่างกายบ้าง พอสังเกตุตัวเองอึ้งมาก นี่ทุกวันนี้ทำแย่กับร่างตัวเองมาก ไม่เอาอีกแล้ว ไม่ทำอีกแล้ว

ก็เริ่มหาข้อมูลในการดูแลร่างกาย การกิน การใช้ชีวิตที่ถูกต้อง การออกกำลังกาย เราต้องการให้มันยั่งยืนอ่ะ ไม่ใช่แบบแค่ช่วงนี้อยากไดเอ็ตก็ทำ แต่อยากให้มันเป็นเหมือนอะไรที่ฝังอยู่จิตใต้สำนึก เหมือนว่าตื่นเช้ามาต้องแปรงฟัน ฮ่าๆ

เลยตั้งใจจะค่อยๆปรับเปลี่ยน และอยากเอามาแชร์กับคนที่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองในเรื่องการดูแลสุขภาพ การกิน เพราะน้ำผึ้งเข้าใจนะว่ามันเหมือนมีบางอย่างที่หนักๆกั้นระหว่างการเป็นคนใหม่กับการเป็นแบบเดิมที่ดูเหมือนสบายดี มีความสุข แต่อีกใจนึงมันก็เรียกร้องก็อยากมีกล้ามท้อง อยากขาเรียว อยากแขนกระชับ อยากหน้าใส อยากใส่ชุดนั้นได้

แต่สรุป ก็กลับมาจุดเดิม เดินไปกิน Buffet น้ำผึ้งไม่ได้ต่อต้าน Buffet แต่รู้สึกว่ามันเกินความหิว แต่เป็นความโลภมากกว่า อย่าว่ากันนะ นานๆสักปีละครั้งถึงจะกินทีล่ะสำหรับตัวเอง เพราะกินไม่ไหว พอหมดเวลามันไม่มีความสุขหน่ะ แต่มันอึดอัด ไม่สบายตัว


น้ำผึ้งถือว่าการเป็นคนใหม่ของน้ำผึ้งได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่บ่ายวันนั้นแล้ว และตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงทดลองหาวิธีที่ถูกกับจริตตัวเอง เพื่อที่จะนำพาร่างกายและจิตใจไปในจุดที่ดี จะได้มีพลังสร้างสรรค์ และทำงานที่เรารัก ได้อย่างเต็มที่

แค่คิดจะเปลี่ยนก็เหมือนได้ลงมือทำแล้ว
มีเป้าหมายที่ชัดเจน หาหนทางที่จะไปถึงเป้าหมายให้ได้ ยืดหยุ่นเมื่อเจอปัญหา
และนับความสำเร็จเล็กๆที่เกิดขึ้น เพื่อเป็นแรงผลักให้เราถึงเส้นชัย




Picture : Pinterest.




No comments:

Post a Comment