Saturday

Review The Brush Guard



สวัสดีค่ะ ^^

วันนี้มีของเล่นใหม่มารีวิวค่ะ
มันคือ ผู้ปกป้องแปรงแต่งหน้าของเราค่า
หลายคนคงเคยเห็นเจ้าตัวนี้มาบ้างแล้วนะคะ

สำหรับน้ำผึ้งเองก็พอรู้จักมาบ้างแต่ว่าไม่เคยคิดอยากจะซื้อมาใช้

แต่ว่ามันมีอยู่วันนึงจัดโต๊ะเครื่องแป้งค่ะ
แล้วก็เอาเครื่องสำอางค์ แปรงแต่งหน้ามาปัดเช็ดทำความสะอาด

แถบกรี๊ดดด!!
กับฝุ่นที่เกาะอยู่บนแปรงแต่งหน้าของน้ำผึ้งค่ะ
โดยปกติแล้ว จะล้างแปรงแต่งหน้าทุกสัปดาห์ค่ะ
แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้แต่งหน้าเลยไม่ได้ยุ่งกับแปรงแต่งหน้าซักเท่าไหร่

เห็นแบบนี้แล้วจิตตกค่ะ กลัวหน้าจะเยินไปด้วยสิวอุดตัน
เลยตัดสินใจซื้อเจ้า The brush Guard มาลองใช้

ลองซื้อมา 2 แบบค่ะ


แบบ Variety Pack
จะประกอบไปด้วย
6 ชิ้นตามนี้ค่ะ


แบบที่2


Shadow/Liner Pack
ใช้สำหรับแปรงแต่งตาค่ะ มีทั้งหมด 10 ชิ้น


ลักษณะของเจ้า Brush Guard ตัวนี้นะคะ
สามารถยืดได้ตามรูปแบบของแรงแต่งหน้าของเรา
และสามารถครอบคลุมบริเวณขนของแปรงได้อย่างดี
นอกจากจะช่วยป้องกันฝุ่นแล้ว ยังช่วยให้แปรงของเราคงรูปอีกด้วย
เหมือนมีแปรงใหม่ตลอดเวลา ^^




วิธีใช้นะคะ
ง่ายๆเลยค่ะ คือสวมเจ้าปลอกตัวนี้จากทางด้านด้ามจับ
และค่อยๆรูดไปจนถึงบริเวณขนแปรง โดยให้ครอบบริเวณขนเลยออกไปประมาณ
1/4 - 1/2 ของขนแปรงนะคะ








และเวลาจะใช้งานแปรงแต่งหน้าของเรา
ให้รูดเจ้าปลอกตัวนี้ขึ้นไปทางด้านขนแปรง
ห้าม!!รูดย้อนลงมาที่ด้ามจับเด็ดขาด
เพราะจะทำให้ขนแปรงที่ครอบไว้เสียทรงหรือหลุดได้



จับใส่ปลอกให้หมด ฮ่าๆ




นอกจากจะช่วยป้องกันฝุ่นละองที่มาเกาะกับแปรงแต่งหน้า
และยังช่วยรักษารูปทรงแปรงของเราให้ดูดีอยู่เสมอแล้ว
ในใบวิธีการใช้ยังบอกมาอีกด้วยว่า

เมื่อคุณล้างแปรงแต่งหน้าของคุณแล้ว
ให้นำเจ้าปลอกตัวนี้ใส่ในแปรงของคุณ
แล้วคว่ำแปรงลงบนแก้ว ปล่อยให้แห้ง
จะช่วยรักษาทรงของแปรงได้ดี

แต่น้ำผึ้งว่่าเราปล่อยให้แปรงเราแห้งข้างนอก
แล้วเราก็ค่อยใส่เจ้าปลอกตัวนี้ก็ได้นะคะ
กลัวเป็นเชื้อรา ฮ่าๆ

แล้วพบกันใหม่ค่ะ จุ๊บๆ




Saturday

Review : Skincare and Makeup Base Primer !!

สวัสดีค่าาา
วันนี้น้ำผึ้งจะมารีวิวว วว...
สกินแคร์ประเภทเซรั่มของน้ำผึ้งนะคะ
ซึ่งสกินแคร์เซรั่มตัวแรกที่จะรีวิวก็คือ
Repairwear laser focus
(wrinkle & photo damage corrector)



คุณสมบัติ

1.ช่วยลดเลือนริ้วรอยและเส้นริ้วบนใบหน้าให้ดูจางลง
ช่วยฟื้นสภาพผิวให้แข็งแรงดูกระชับและมีความยืดหยุ่นมากขึ้นด้วยอะมิโนหลากชนิด
2. ช่วยฟื้นสภาพผิวจากการทำร้ายของรังสียูวีด้วยส่วนผสมของสารสกัดจากเอนไซม์
สูตรพิเศษเฉพาะของคลีนิกข์
3.เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว ผ่านการทดสอบการแพ้ ปราศจากน้ำหอม 100 %
ขนาด: 30 มล. ราคา: 2,500 บาท

วิธีใช้:
หลังล้างหน้า และ lotion/toner

สรรพคุณดูจะเหมาะกับชีวิตประจำวันของน้ำผึ้งมากๆเลย
เพราะว่าทุกๆวันน้ำผึ้งต้องเจอแสงแดดที่สุดโหดดด !!

ซึ่งแสงแดดที่เราเจออยู่ทุกวันนี่แหละค่ะ
ตัวปัญหาหลักที่ทำให้ผู้หญิงอย่างเราเกิดริ้วรอยก่อนวัย
((น่ากลัวม๊ากกก = =''''))

มีบางคนสงสัยว่า
"อ๊าาวว !! อายุแค่นี้ใช้สกินแคร์ประเภทริ้วรอยแล้วหรอ"

คำตอบที่น้ำผึ้งจะตอบนี้นะคะ
เป็นคำตอบที่เป็นความ
คิดเห็นส่วนตัวของตัวเอง
และบวกกับที่เคยอ่านศึกษาและถามมาจากผู้ให้คำแนะนำของ Clinique

การที่เราเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอยนั้น
เราไม่จำเป็นต้องมีริ้วรอยก่อนถึงใช้
เราสามารถใช้เพื่อ
ป้องกันหรือชะลอการเกิดของริ้วรอยบนใบหน้าเราก่อนได้

หากเราเพิ่งสังเกตุว่า เอ้ย!! ริ้วรอย ตีนกา ขึ้นแล้วค่อยมาโบกบำรุง
หนังหน้าของเรา และหวังในใจว่ามันจะทำให้หน้าเด้งตึง
เหมือนสาวๆอีกครั้ง มันอาจจะสายไป
ทางที่ดีเราควรจะป้องกันไว้ตั้งแต่เนิ่นๆนะคะ
สำหรับตัวน้ำผึ้งแล้ว ขอเลือกที่จะป้องกันไว้ก่อนดีกว่าค่ะ

นอกจากจะช่วยป้องกันริ้วรอยแล้วยังช่วยเรื่องการฟื้นฟูผิวจากรังสียูวีอีกด้วย
และที่สำคัญ !! สามารถทางเซรั่มตัวนี้บนบริเวณรอบดวงตาได้ด้วย
กรี๊ดดด !! มั้ยคะ??
เพราะเซรั่มทุกตัวเท่าที่เคยเห็นมามันมักจะ
Avoid eye area
แต่เจ้าตัวนี้ไม่ค่ะ !!
เชิญทาฉันลงบนดวงตาเธอด้วยย ฮ่าๆ

ลักษณะของเนื้อเซรั่ม : ใส เหลว ลื่น เกลี่ยง่าย



ลักษณะซึมซาบ : ซึมซาบได้ดี และใช้เวลาประมาณ 10-15 วินาทีกลืนไปกับผิวหน้า


ความรู้สึกหลังใช้ (ประมาณสองเดือน)
รู้สึกว่าผิวหน้าแข็งแรงขึ้น
แต่ถ้าให้เห็นเป็นรูปชัดเจนในเรื่องริ้วรอย
คงยังไม่เห็นได้ชัดเจนค่ะ
แต่รอยริ้วใต้ตาเส้นเล็กๆดูจางลง
แต่หากว่าได้ใช้ติดต่อกันนานกว่านี้อาจจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเชนขึ้น

ส่วนเรื่องฟื้นฟูผิวจากรังสียูวี
จะเห็นผลชัดกว่า รู้สึกว่าผิวมีสีผิวที่สม่ำเสมอกันมากขึ้น
ไม่คล้ำเหมือนทุกครั้งที่เจอแสงแดดจัดๆ
พอทาตัวนี้ก่อนนอนตื่นเช้ามาผิวสดชื่นขึ้นค่ะ

คุณสมบัติที่บอกกับคุณภาพที่เซรั่มทำงานเราให้คะแนน

คะแนนเต็ม 5 ให้ไปเลย 4.5

ตัวที่สองคือ
Turnaround concentrate visible skin renewer





คุณสมบัติ
1.ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่งสดใส ด้วยการกระตุ้นให้ผลัดเซลล์ผิวใหม่ตลอดทั้งวัน
2.ช่วยให้ผิวรู้สึกสบายด้วยส่วนผสมที่ช่วยควบคุมความมันส่วนเกิน แต่ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง
3.ไม่ก่อให้เกิดสิว ปราศจากน้ำมัน
4.ผ่านการทดสอบการแพ้ ปราศจากน้ำหอม 100%
ความกังวล :การดูแลเป็นพิเศษ,ช่วยผลัดเซลล์เสื่อมสภาพ
ขนาด: 30 มล. ราคา: 2,200 บาท
ขนาด: 50 มล. ราคา: 2,850 บาท

ตัวนี้เพิ่งซื้อที่ใช้ได้สองวันเองค่ะ ฮ่าๆ
คุณภาพสมคบอกเล่าหรือไม่นั้นไว้จะมารีวิวให้ฟังอีกครั้งนะคะ
(ขอติดไว้ก่อน อูฮิๆ)

สาเหตุที่ซื้อมาใช้นะคะ
คือ...
เค้าบอกว่ามันสามารถควบคุมความมันปราศจากน้ำมัน !!
และช่วยผฝัดเซลผิวที่ตาย
ให้หลุดออกอย่างอ่อนโยนน
อูยย~~~ อยากลองฮาฟฟ
อยากมีผิวสดใสเปล่งปลั่ง เป็นออร่า วิ๊งๆ

ลักษณะเซรั่ม : เนื้อนิ่ม เวลาบีบออกมารวมตัวเป็นเป็นกลุ่ม
ไม่เหลวถึงขนาดไหลย้อย และเกลี่ยง่าย


ลักษณะซึมซาบ : ซึบซาบไว ไวกว่าตัว repairwear laser focus



อยากเปรียบเทียบลักษณะเนื้อเซรั่มสองตัวนี้ให้ดู
(ไม่เกี่ยวกับคุณสมบัติ)

จะเห็นถึงลักษณะของเนื้อเซรั่มอย่างชัดเจน

คะแนนความชื่นชอบเนื้อเซรั่ม : เต็ม5 เอาไป 5 เลยค่ะ
ส่วนเรื่องคุณสมบัติ นะมารีวิวให้ชมหลังจากมดลองใช้สักระยะนะคะ

*ขอขอบคุณข้อมูลคุณสมบัติของเซรั่มจาก http://www.clinique.co.th/


มาต่อกันด้วย Makeup Base Primer กันเลยค่า
ที่จะรีวิวมี 3 ตัวดังนี้นะคะ

Lancome: La Base Pro
Perfecting Makeup Primer
Smoothing Effect Oil-Free 25 ml
ราคา 1,530 บาท (ลดแล้ว)


Laura Mercier: Foundation Primer
ราคา 1,350 บาท


L'oreal: Studio Secrets Professional Smoothing Reserfacing Primer base
(ไม่แน่ใจว่าเคาเตอร์ไทยชื่อว่าอะไรหน่ะค่ะ)
ราคา ไม่แน่ใจค่ะ (ซอรี่นะคะ -///-'')


คุณสมบัติของทั้งสามตัวนี้คือ

ปรับสภาพผิวหน้าก่อนแต่งหน้า
ควบคุมความมัน พรางรูขุมขน
ทำให้เครื่องสำอางค์เกาะผิวหน้าได้ดีและทนมากขึ้น
วิธีใช้ :
ลงก่อนแต่งหน้า(หลังลงสกินแคร์)

ถามว่าจำเป็นต้องใช้ไหม??
คำตอบสำหรับน้ำผึ้งคือ
ถ้าคุณเป็นคนผิวมันคุณควรใช้ ไม่งั้นหน้าคุณจะเยิ้มมม มาก
แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไปควบคุมการผลิตน้ำมันบนใบหน้าคุณ
ร้อยเปอร์เซนต์ แต่ !! เป็นตัวช่วยในการควบคุมความมันบนใบหน้า
ไม่ให้มีมากเกินไป เกินความงามม หน่ะค่ะ ฮ่าๆ

แต่ถ้าคุณเป็นคนผิวลักษณะอื่นๆแล้วอยากให้
เครื่องสำอางค์ติดทนก็แนะนำค่ะ
แล้วแต่ความชอบ เพราะว่าบางคนก็ไม่ชอบทาอะไรมากมาย
สรุปว่าหากโอกาสอยากอยู่ทน และอยู่นาน ก็แนะนำนะคะ ^^

ลักษณะเนื้อของ Primer



Lancome
มีลักษณะใส เนื้อเบา รวมตัวกันดี ไม่ไหลย้อยง่าย

Laura Mercier
มีลักษณะ เนื้อขุ่น แต่เบา ไม่ค่อยรวมตัวกัน และไหลย้อยง่าย

L'oreal
มีลักษณะ เนื้อขุ่นสีชมพู เนื้อหนา(กว่าสองตัวบน) คล้ายเนื้อฟิล์ม

ลักษณะการซึมซาบเข้าผิว




Lancome
เมื่อใช้นิ้วเกลี่ยเนื้อ primer จะรู้สึกทันทีว่า
เปลี่ยนสภาพจากเจลใสๆธรรมดาเป็นแผ่นฟิล์มเคลือบผิวเราไว้
ความไวในการซึมซาบ ประมาณ 10 วินาที

Laura Mercier
เมื่อใช้นิ้วเกลี่ย primer จะรู้สึกว่ามันค่อนข้างเหนอะกว่า Lancome
และซึมซาบช้ากว่า ต้องค่อยๆนวดให้กลืนไปกับผิว

L'oreal
เมื่อใช้นิ้วเกลี่ยเนื้อ Primer รู้สึกว่าเป็นแผ่นฟิล์มเคลือบผิว
แต่ต้องค่อยๆเกลี่ยเพราะหากเกลี่ยไม่ดี
จะทำให้เป็นคลาบได้ง่ายกว่าสองตัวบน
การซึมซาบนั้นดี(ไวกว่าตัว Lancome)
เพราะด้วยลักษณะเนื้อฟิล์มอยู่แล้ว
ทำให้เวลาเกลี่ยแล้วสามารถกลืนไปกับผิวได้ทันที

ให้คะแนนความพอใจ
Lancome เต็ม5 เอาไป 5
เหตุผล
ถึงแม้จะซึมซาบไม่ได้ไวทันที แต่ด้วยคุณสมบัติเฉพาะ
ที่เปลี่ยนเนื้อเจลเป็นเนื้อฟิล์มทันที ทำให้รู้สึกได้
และสามารถทำหน้าที่คุมมันได้ดีเยี่ยม !!

Laula Mercier เต็ม 5 เอาไป 4
เหตุผล
เนื้อของตัวนี้เหลวไปหน่อย ต้องค่อยๆนวด
ทำให้ใช้เวลานานกว่าตัวอื่น
และไม่ค่อยคุมมัน(ก็มันไม่ oil-freeนี่คะ)
เพราะช่วงที่ซื้อน้ำผึ้งผิวแพ้
และค่อนข้างแห้งมาก

L'oreal เต็ม 5 เอาไป 4.5
เหตุผล
ตัดเรื่องเนื้อที่หนาต้องค่อยๆเกลี่ย
เพราะอาจทำให้เป็นคราบได้
คุมมันได้พอใช้ ราคาน่าคบ^^

จากทั้งหมดของการรีวิวนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ
และเหมาะกับสภาพผิวของน้ำผึ้ง
หากเพื่อนๆคนไหนสนใจผลิตภัณฑ์ที่นำมารีวิว
ก็อยากแนะนำให้ศึกษาให้ดีก่อนเพื่อประสิทธิภาพ
ที่ดีที่สุดสำหรับผิวคุณนะคะ
แล้วจะ edit เพิ่มภาพน้ำผึ้งกับการใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ
ที่รีวิวเพิ่มนะคะ

วันนี้ไปก่อนค่าา

Wednesday

Must Know ! About Foundation

FOUNDATION
เรามารู้จักรองพื้นชนิดต่างๆกันดีกว่านะคะ
ว่าแต่ละชนิดมีลักษณะอย่างไร และเหมาะกับสภาพผิวอย่างไร

Tint Moisturizer Foundation

ลักษณะ : เบาบาง ธรรมชาติที่สุด
เหมาะ : ผิวธรรมดา หรือ ผิวธรรมดาถึงแห้ง
เพราะมีส่วนผสมของ Moisturizer

Stick Foundation
ลักษณะ : ปกปิดปานกลาง
เหมาะ : ทุกประเภทผิว ยกเว้นผิวมัน

Liquid Foundation
ลักษณะ : ปกปิดปานกลางถึงมาก
เหมาะ : ผิวแห้งถึงผิวแห้งมาก

Oil-Free Foundation
ลักษณะ : ปิกปิดปานกลาง
เหมาะ : ผิวมัน

Oil-Free Cream Foundation
ลักษณะ : ปกปิดปานกลางถึงมาก
สามารถปกปิดรอยสิวและรูขุมขนที่กว้างได้
เหมาะ : ผิวธรรมดาถึงผิวมัน

Whipped Foundation (เนื้อมูส)
ลักษณะ : ปกปิดปานกลางถึงมาก
เหมาะ : ผิวผสม และคนที่ผิวไม่เรียบเนียน

ที่มา : Bobbi Brown Makeup Manual